โรคไต อย่าปล่อยไว้นาน
ยิ่งรักษาเร็ว.. "ยิ่งไม่ต้องฟอกไต"
Pollitin (พอลลิติน) รักษาโรคไตทุกระยะ 1-5 รักษาไตวายเรื้อรัง ไตวายเฉียบพลัน ไตเสื่อม ปัสสาวะเป็นฟอง ปัสสาวะบ่อย อ่อนเพลีย บวมน้ำ อัตราการทำงานของไตต่ำ ช่วยระบบการทำงานของไตให้กลับมาทำงานได้ปกติ 👨🏻⚕️ มีงานวิจัยรับรองจากสถาบันทางการแพทย์และเภสัชกรรมรับรองมากกว่า 140 การวิจัย มาตรฐาน GMP อย. NSF ฮาลาล นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา 🇺🇸
ผู้ทานมากกว่า 97% กลับมาซื้อซ้ำ !!
POLLITIN (พอลลิติน) จะเข้าไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายให้กลับมาทำงานเป็นปกติ ช่วยระบบการทำงานของไต ขับของเสียในไตช่วยไตวายเฉียบพลัน ช่วยบำบัดค่าเลือด ช่วยลดการอักเสบ ลดอาการปวดหลัง ปวดเอว มีปัสสาวะมีกลิ่น มีฟอง ปัสสาวะขัด ช่วยระบบการไหลเวียนของเลือด
POLLITIN (พอลลิติน) เป็นสารอาหารหรือสมุนไพรจากธรรมชาติ ผ่านมาตรฐาน GMP.อย.NSF ฮาลาล ผลิตโดยบริษัท Gramirex LLC สหรัฐอเมริกาและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสารอาหารบำบัด อย.โลกให้การรับรอง
ขั้นตอนการผลิต การวิจัย แหล่งที่มา POLLITIN
ต้องทานนานเท่าไรถึงจะเห็นผล ?
เนื่องจากพอลลิตินสามารถดูซึมไปใช้งานได้ทันที ทำให้ผู้ทานจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงได้หลังจากการทานประมาณ 1-3 ชม. และจะเห็นผลชัดเจนเมื่อทานไปประมาณ 2-3 สัปดาห์
สั่งซื้อกับเราดีอย่างไร ?
ปลอดภัย มั่นใจได้ของแท้ 100% สินค้ามาจากบริษัทโดยตรง เราพร้อมดูแล ให้คำปรึษาโดยผู้เชี่ยวชาญ
อยากสั่งซื้อต้องทำอย่างไร ?
1. สั่งสินค้าทาง ID Line : @cancerhealthy
(มี @ ด้วยนะครับ)
2. สั่งสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ 065-991-4623
ไตของเรามีรูปร่างคล้ายถั่ว
อยู่บริเวณใต้ชายโครงด้านหลังทั้ง 2 ข้าง บริเวณบั้นเอว มีรูปร่างคล้ายถั่วเหลือง ยาวประมาณ 12 เซนติเมตร
หน้าที่การทำงานของไต
หน้าที่ของไต คือ เป็นตัวกรองน้ำ และกำจัดของเสียรวมทั้งสารพิษออกจากร่างกาย ควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ตลอดจนความเป็นกรด-ด่างในเลือด สร้างฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดงและวิตามินดี
โรคไตวายไตวายเฉียบพลัน
ไตเสื่อมอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเป็นวันหรือสับดาห์ มักมีอาการมากกว่าแบบเรื้อรัง อัตราการเสียชีวิตสูง ถ้าพ้นอันตรายไตมักจะเป็นปกติได้
โรคไตวายเรื้อรัง
การที่ไตมีภาวะการทำงานผิดปกติ หรือมีการทำงานของไตที่ลดลง โดยดูจากค่าอัตราการกรองของไตที่ผิดปกติในระยะเวลามากกว่า 3 เดือน ขึ้นไป ระยะเริ่มแรกมักจะไม่มีอาการ แต่เมื่อไตทำงานเสื่อมลงจนหน่วยไตเหลือน้อยกว่าร้อยละ 10 ก็จะมีของเสียคั่งในกระแสเลือดและมีอาการต่างๆ ตามมา เนื้อไตถูกทำลายอย่างถาวร ทำให้ไตค่อยๆฝ่อเล็กลง แม้อาการจะสงบแต่ไตจะค่อยๆเสื่อม และเข้าสู่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด
การป้องกันโรคไต
โรคไตบางโรคป้องกันได้ยาก แต่บางโรคก็สามารถป้องกันได้ โดยทั่วไป อาจป้องกันการเกิดความเสียหายที่ไตได้ด้วยการดูแลตนเอง และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อไตด้วยวิธีดังต่อไปนี้ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเน้นบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืช และนม และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง มีรสเค็ม หรือมีน้ำตาลสูง ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอ โดยควรออกกำลังกายประมาณ 2.5 ชั่วโมง/สัปดาห์ ไม่ดื่มสุรา หรือควบคุมปริมาณการดื่ม ไม่สูบบุหรี่ หรือเลิกสูบบุหรี่ ระมัดระวังในการใช้ยารต่าง ๆ โดยเฉพาะยาแก้ปวดในกลุ่มเอนเสด เช่น แอสไพริน และไอบูโพรเฟน
สาเหตุของ โรคไตวาย
ไตวายสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสูญเสียเลือดหรือน้ำในร่างกายมากเกินไป ป่วยด้วยภาวะความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานมาเป็นระยะเวลานาน อาการแพ้อย่างรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการทำงานของไต หรือเกิดการติดเชื้อรุนแรงจนทำให้ไตถูกทำลาย การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายล้มเหลวจนทำให้เลือดไหลเวียนไปยังไตไม่เพียงพอ ผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไปจนเกิดภาวะไตเสื่อม มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายจนทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เกิดอุบัติเหตุโดยตรงบริเวณไต หรือไตเสื่อมตามอายุ เป็นต้น
สาเหตุของ โรคไตอักเสบ
ไตอักเสบอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ บางครั้งอาจไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด แต่อาจเป็นผลมาจากกรรมพันธุ์ หรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตค็อกคัส (Streptococcus) การอักเสบของเยื่อบุหัวใจจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Endocarditis) การติดเชื้อไวรัส การอักเสบจากโรคในระบบภูมิคุ้มกัน และกลุ่มโรคมะเร็งต่าง ๆ เป็นต้น
สาเหตุของ โรคกรวยไตอักเสบ
กรวยไตอักเสบมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไล (E. Coli) ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอักเสบต่อเนื่องจากกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะ การอุดตันของทางเดินปัสสาวะ บางกรณีเชื้อแบคทีเรียอาจแพร่กระจายเข้าสู่กรวยไตผ่านทางกระแสเลือดได้ โดยเฉพาะผู้ที่ติดเชื้อในข้อเทียมหรือลิ้นหัวใจเทียม
สาเหตุของนิ่วในไต
นิ่วในไตอาจเกิดจากปริมาณของเกลือ แร่ธาตุ และสารต่าง ๆ เช่น แคลเซียม กรดออกซาลิก และกรดยูริกในปัสสาวะมีระดับเปลี่ยนแปลงไป โดยมีปริมาณมากเกินกว่าของเหลวในปัสสาวะจะละลายหรือเจือจางสารเหล่านี้ได้ จนเกิดการเกาะตัวเป็นก้อนนิ่วในที่สุด โดยการเกิดนิ่วในไตอาจมีปัจจัยจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารบางชนิดที่มีเกลือ น้ำตาล และโปรตีนสูง การดื่มน้ำไม่มากพอในแต่ละวัน การเจ็บป่วย เช่น การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โรคเมตาบอลิก รวมถึงการใช้ยาบางชนิดอย่างยารักษาโรคเก๊าท์บางประเภท และการรับประทานวิตามินดีเสริมมากเกินไป เป็นต้น
หน้าที่เข้าชม | 636,726 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 492,570 ครั้ง |
เปิดร้าน | 29 ก.ย. 2563 |
ร้านค้าอัพเดท | 14 ก.ย. 2568 |